ธุรกิจเครือข่ายแนวใหม่

             


ทฤษฎีธุรกิจเครือข่ายแนวใหม่ที่ผมคิดขึ้นมานี้ได้กลั่นกลองมาจากความล้มเหลวในการทำธุรกิจเครือข่ายด้วยความตั้งใจอย่างยิ่ง ลงทั้งเงินทั้งเวลาหาความรู้ทำทุกอย่างที่คนสำเร็จทำแต่ผลออกมาไม่น่าพอใจเลย คนที่สำเร็จแล้วหรือกำลังทำได้ดีก็มักจะพูดว่าคุณทำยังไม่พออ เอาเถอะครับ ความอดทนของแต่ละคนมันไม่เท่ากัน ของผมถ้ามันไม่เวร์คในช่วงเวลานึง ผมจะเปลี่ยนวิธีคิดและวิธีทำมันครับ ด้วยเหตุผลทางสถิติที่ว่าคนล้มเหลวในธุรกิจเครือข่ายนั้นมากถึง 80% มีเพียง 20% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จผมจึงอยากเขียนให้คน 80% อ่านครับเพราะผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
คอนเซบง่ายๆ แค่ชวนคนมาใช้สินค้าแล้วได้เงินคืน
ฟังดูมันก็ไม่ต่างจากเดิมใช่มั้ยครับ
วิธีการชวน มี 2 วิธีคือ
1.ชวนคนรู้จัก
2.ชวนทางโซเชียล
ก็ยังไม่ต่างจากเดิมอีก ใจเย็นครับมันอยู่ที่วิธีคิดต่างหาก
วิธีคิดของการทำธุรกิจเครือข่ายแนวใหม่คือ
- ไม่ต้องตั้งเป้าหมาย
เพราะเวลาเราตั้งเป้าแล้วเราจะเกิดความคาดหวังจากสิ่งที่เราลงทุนลงแรงไปจนเราคิดว่าสุดความสามารถของเราแล้วแต่อย่าลืมนะครับว่า ส่วนประกอบความสำเร็จของธุรกิจเครือข่ายคือคุณต้องมีเครือข่ายที่แท้จริงเหมือนตัวคุณที่ทำจริงใช้สินค้าจริง แล้วอีกนานเท่าไหร่คุณถึงจะเจอคนๆนั้น จากประสบการณ์ความไม่สำเร็จของผม จึงอยากจะบอกว่าเราควรเปลี่ยนแนวคิดซะใหม่ในการเริ่มทำธุรกิจเครือข่ายครับนั่นคือไม่ต้องตั้งเป้าว่าเราจะขึ้นตำแหน่งนู้นตำแหน่งนี้ พอไม่ได้แล้วมันเครียดครับแถมพอเห็นคนอื่นเค้าได้กันยิ่งเหมือนโดนทับถม เอางี้ครับ คุณต้องคิดใหม่ว่า
ไอ้ธุรกิจนี้ทำไงก็ไม่รวยหรอกครับ ถ้าหวังรวยคงตายก่อนแน่ แต่คิดแค่ซื้อของใช้แล้วได้เงินคืนแถมประกัน แค่นี้ชีวิตก็ดีกว่าเราไปซื้อของที่อื่นแล้วนะครับ อีกอย่างถ้าเราคิดแค่นี้ก็ไม่ต้องไปประชุมให้เสียเวลาทำมาหากินครับเรื่องง่ายๆแค่นี้ คุณเจอใครก็บอกเค้าซะหน่อยว่า นี่มาซื้อของใช้ที่นี่ซิได้เงินคืนแถมประกันอุบัติเหตุด้วยนะเค้าไม่เอาก็ไม่เป็นไร ยังไงอย่างน้อยตัวเราก็ยังได้เงินคืนอยู่ดี 
อย่าไปคิดว่ามันเป็นงาน งานเสริม อาชีพเสริมให้มันดูดีเลย เพราะมันไม่ใช่ตอนนี้ครับ ถ้าเป็นงานเสริม อาชีพเสริมจริงมันต้องมีรายได้ที่พอจะเลี้ยงเราได้อย่างน้อยก็ข้าว 3 มื้อ แต่นี่เราซื้อของใช้เดือนละพันได้คืนเดือนละร้อยนี่มันไม่ใช่มันขำๆแค่นั้นเอง
แต่ด้วยไอเดียอย่างนี้และครับทำให้คุณไม่มีความท้อถอยที่จะหยุดชวนใครๆให้มาซื้อของใช้แบบคุณเพราะคุณจะไม่มีเจตนาแอบแฝงไม่มากก็น้อยและที่จะไปหวังผลประโยชน์จาการแนะนำเค้า หากคุยไปคุยมาตกลงสมัครและดันไปรู้ว่ามีญาติเป็นสมาชิกอยู่คุณก็ไม่ต้องไปรั้งเค้าให้สมัครกับคุณเพราะกลับไปดูคอนเซบของเราคือแต่บอกว่าซื้อของใช้แล้วได้เงินคืนไม่ได้ระบุว่าต้องซื้อจากคุณนี่ เอาให้สบายใจทั้งสองฝ่ายครับ ความรู้สึกอยากมันจะไม่มี มันจะมีแต่ความรู้สึกดีๆ เพราะคุณก็จะชวนแต่คนที่คุณอยากชวนหรือสบายใจจะคุยด้วยทั้งนั้น คนไหนคุณไม่อยากคุยด้วยคุณก็ไม่จำเป็นต้องบากหน้าไปขอให้เค้าสมัคร
ผมจะลองเริ่มต้นทำตามทฤษฎีใหม่นี้ดูสักตั้ง แต่ด้วยไอเดียนี้จะทำให้ผมไม่ตั้งใจ ไม่พยายามหาลูกทีมเลย แต่ผมเชื่อว่า บางทีสิ่งที่เราโฟกัสกับมันมากเกินไปอาจทำให้เราเหนื่อยเกินไปก็ได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น